ประมวลกฎหมายอาญา

    Author: Unknown Genre:
    Rating



    ประมวลกฎหมายอาญา

    พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรด เกล้าฯ ให้ประกาศว่า
    โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงกฎหมาย อาญาเสียใหม่เพราะตั้งแต่ได้ประกาศใช้กฎหมายลักษณะอาญาใน พุทธศักราช 2451 เป็นต้นมา พฤติการณ์ของบ้านเมืองได้ เปลี่ยนแปลงไปเป็นอันมาก
    จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้ โดยคำแนะนำและยินยอมของสภาผู้แทนราษฎร ดังต่อไปนี้
    Topมาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติ ให้ใช้ประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2499"
    Topมาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป
    Topมาตรา 3 ประมวลกฎหมาย อาญาท้ายพระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2500 เป็นต้นไป
    Topมาตรา 4 เมื่อประมวลกฎหมาย อาญาได้ใช้บังคับแล้วให้ยกเลิกกฎหมายลักษณะอาญา
    Topมาตรา 5 เมื่อประมวลกฎหมายอาญาได้ใช้บังคับแล้ว ในกรณีที่กฎหมายใดได้ กำหนดโทษโดยอ้างถึงโทษฐานลหุโทษในกฎหมายลักษณะอาญาไว้ ให้ถือว่ากฎหมายนั้นได้อ้างถึงโทษ ดังต่อไปนี้
    ถ้าอ้างถึงโทษชั้น 1 หมายความว่า ปรับไม่เกินหนึ่งร้อยบาท
    ถ้าอ้างถึงโทษชั้น 2 หมายความว่า ปรับไม่เกินห้าร้อยบาท
    ถ้าอ้างถึงโทษชั้น 3 หมายความว่า จำคุกไม่เกินสิบวัน หรือปรับไม่เกินห้าร้อยบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
    ถ้าอ้างถึงโทษชั้น 4 หมายความว่า จำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
    Topมาตรา 6 เมื่อประมวลกฎหมายได้ใช้บังคับแล้ว ในการจำคุกแทนค่าปรับตามกฎหมายใด ไม่ว่ากฎหมายนั้นจะบัญญัติไว้ประการใด ให้นำประมวลกฎหมายอาญามาใช้บังคับแต่สำหรับความผิด ที่ได้กระทำก่อนวันที่ประมวลกฎหมายอาญาใช้บังคับ มิให้กักขังเกินกว่าหนึ่งปี สำหรับโทษปรับกระทงเดียว และสองปีสำหรับโทษปรับหลายกระทง
    Topมาตรา 7 ในกรณีวิธีการเพื่อความปลอดภัยตาม มาตรา 46 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ให้นำบทบัญญัติแห่ง ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาใช้บังคับเสมือน เป็นความผิดอาญา แต่ห้ามมิให้คุมขังชั้นสอบสวนเกินกว่าสี่สิบแปดชั่วโมงนับแต่ เวลาที่ผู้ถูกจับมาถึงที่ทำการของพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ แต่มิให้นับเวลาเดินทางตามปกติที่นำตัวผู้ถูกจับมาศาลรวมเข้า ในกำหนดเวลาสี่สิบแปดชั่วโมงนั้นด้วย
    Topมาตรา 8 เมื่อประมวลกฎหมาย อาญาได้ใช้บังคับแล้ว บทบัญญัติแห่งกฎหมายใดอ้างถึงกฎหมายลักษณะอาญา หรืออ้างถึงบทบัญญัติแห่ง กฎหมายลักษณะอาญา ให้ถือว่าบทบัญญัติแห่งกฎหมายนั้นอ้างถึงประมวลกฎหมายอาญา หรือบทบัญญัติ แห่งประมวลกฎหมายอาญาในบทมาตราที่มีนัยเช่นเดียวกัน แล้วแต่กรณี

    ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
    จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี

    หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ กฎหมายลักษณะอาญา ร.ศ. 127 ได้ประกาศใช้มานานแล้วและได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมอยู่หลายแห่งกระจัดกระจายกันอยู่ จึงเป็นการสมควรที่จะได้ชำระสะสาง และนำเข้ารูปเป็นประมวลกฎหมายอาญาเสียในฉบับเดียวกันอนึ่ง ปรากฏว่าหลักการบางอย่างและวิธีการลงโทษบางอย่างควรจะได้ปรับปรุงให้สมกับกาล สมัยและแนวนิยมของนานาประเทศ ในสมัยปัจจุบันหลักเดิมบางประการจึงล้าสมัย สมควรจะได้ปรับปรุงเสียให้สอดคล้องกับ หลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตย

    สารบัญ


    ภาค1 บทบัญญัติทั่วไป
      ลักษณะ1 บทบัญญัติที่ใช้แก่ความผิดทั่วไป
      หมวด1 บทนิยาม
      หมวด2 การใช้ กฎหมายอาญา
      หมวด3 โทษและวิธีการเพื่อความปลอดภัย
      ส่วนที่1 โทษ
      ส่วนที่2 วิธีการ เพื่อความปลอดภัย  
      ส่วนที่3 วิธีเพิ่มโทษ ลดโทษ และการรอการลงโทษ
      หมวด4 ความรับผิด ในทางอาญา
      หมวด5 การพยายาม กระทำความผิด
      หมวด6 ตัวการ และผู้สนับสนุน
      หมวด7 การกระทำความผิด หลายบทหรือหลายกระทง
      หมวด8 การกระทำความผิดอีก
      หมวด9 อายุความ
      ลักษณะ2 บทบัญญัติ ที่ใช้แก่ความผิดลหุโทษ
    ภาค2 ความผิด
      ลักษณะ1 ความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร
      หมวด1 ความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท และผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
      หมวด2 ความผิดต่อความมั่งคงของรัฐ ภายในราชอาณาจักร
      หมวด3 ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐ ภายนอกราชอาณาจักร
      หมวด4 ความผิดต่อสัมพันธไมตรี กับต่างประเทศ
      ลักษณะ1/1 ความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้าย
      ลักษณะ2 ความผิดเกี่ยวกับการปกครอง
      หมวด1 ความผิดต่อเจ้าพนักงาน
      หมวด2 ความผิดต่อตำแหน่ง หน้าที่ราชการ
      ลักษณะ3 ความผิดเกี่ยวกับการยุติธรรม
      หมวด1 ความผิดต่อเจ้าพนักงาน ในการยุติธรรม
      หมวด2 ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ในการยุติธรรม
      ลักษณะ4 ความผิดเกี่ยวกับศาสนา
      ลักษณะ5 ความผิดเกี่ยวกับความสงบสุข ของประชาชน
      ลักษณะ6 ความผิดเกี่ยวกับการก่อให้เกิด ภยันตรายต่อประชาชน
      ลักษณะ7 ความผิดเกี่ยวกับการปลอมและการแปลง
      หมวด1 ความผิดเกี่ยวกับเงินตรา
      หมวด2 ความผิดเกี่ยวกับดวงตราแสตมป์ และตั๋ว
      หมวด3 ความผิดเกี่ยวกับเอกสาร
      หมวด4 ความผิดเกี่ยวกับบัตรอิเล็กทรอนิกส์
      หมวด5 ความผิดเกี่ยวกับหนังสือเดินทาง
      ลักษณะ8 ความผิดเกี่ยวกับการค้า
      ลักษณะ9 ความผิดเกี่ยวกับเพศ
      ลักษณะ10 ความผิดเกี่ยวกับชีวิตและร่างกาย
      หมวด1 ความผิดต่อชีวิต
      หมวด2 ความผิดต่อร่างกาย
      หมวด3 ความผิดฐานทำให้แท้งลูก
      หมวด4 ความผิดฐานทอดทิ้งเด็ก คนป่วยเจ็บ หรือคนชรา
      ลักษณะ11 ความผิดเกี่ยวกับเสรีภาพและชื่อเสียง
      หมวด1 ความผิดต่อเสรีภาพ
      หมวด2 ความผิดฐานเปิดเผยความลับ
      หมวด6 ความผิดฐานหมิ่นประมาท
      ลักษณะ12 ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์
      หมวด1 ความผิดฐานลักทรัพย์ และวิ่งราวทรัพย์
      หมวด2 ความผิดฐานกรรโชก รีดเอาทรัพย์ ชิงทรัพย์และปล้นทรัพย์
      หมวด3 ความผิดฐานฉ้อโกง
      หมวด4 ความผิดฐานโกงเจ้าหนี้
      หมวด5 ความผิดฐานยักยอก
      หมวด6 ความผิดฐานรับของโจร
      หมวด7 ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์
      หมวด8 ความผิดฐานบุกรุก
    ภาค3 ลหุโทษ

     



    Leave a Reply

    Blogger templates

    Blogger news

    Blogroll